Thought about Artificial Intelligence (AI)

ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น

ความหวาดกลัวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะเมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในช่วง 10-20 ปีก่อนที่เทคโนโลยีไม่ได้ก้าวกระโดดอย่างทุกวันนี้ เริ่มแรกผู้คนก็หวาดกลัว แต่สุดท้ายก็จะมีความเคยชินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

AI กลายเป็นคำที่ทุกคนพูดถึง

เราเห็นผู้คนนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ที่ใช้ “AI” หรือ “Artificial Intelligence” เป็น buzz word อยู่แทบทุกวัน และก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนต่อประโยคด้วยคำว่า “AI จะครองโลก” หรือ “AI จะทำให้คนตกงาน” สิ่งเหล่านี้สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ได้ยิน และไม่รู้ว่าจะเผชิญกับเรื่องนี้อย่างไร

หากเราไม่ได้ติดตามและทำความเข้าใจต่อเรื่องต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็มีความเป็นไปได้มากที่คุณจะมีความกลัวต่อข่าวของ AI แต่หากเราเข้าใจที่มาที่ไป เราจะพบว่าในทุก ๆ วัน มีคนรอบตัวคุณนับไม่ถ้วนที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้ต่อยอดการทำงาน เป็นผู้ช่วยที่ทำให้คุณมีความแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มประสิทธิผลด้วยการใช้ AI อย่างเป็นธรรมชาติ

ทำความเข้าใจ AI อย่างง่าย

Artificial Intelligence (AI) คือเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานมาจาก Machine Learning ซึ่งเป็นการสอนให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เช่น การจดจำและเปรียบเทียบ การคำนวณ หรือการตัดสินใจ

เบื้องหลังของสิ่งเหล่านี้คือการสอนให้คอมพิวเตอร์เข้าใจความเป็นไปได้ต่าง ๆ โดยการจดจำข้อมูลมหาศาล เรียนรู้ วิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ข้อมูลที่ AI ใช้ในการประมวลผลนั้นสามารถเปรียบเทียบได้กับขนาดของมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมด แต่ AI สามารถประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็ยังต้องใช้ทรัพยากรที่มากในการเรียนรู้และประมวลผล เมื่อเทียบกับความมหัศจรรย์ของสมองมนุษย์ที่สามารถทำได้ดีกว่าในบางเรื่อง เช่น การประมวลผลที่ซับซ้อน อารมณ์ หรือความเร็วในการรับส่งข้อมูลของสมองมนุษย์

ประโยชน์ของ AI ในชีวิตประจำวัน

ข้อดีของการเรียนรู้แทบจะไม่มีขอบเขตของ AI คือการจำลองและสร้างความเป็นไปได้ที่บางทีเราไม่อาจคาดการณ์ได้มาอยู่ตรงหน้า ถ้าเรามีมาตรการในการตรวจสอบความจริง (fact check) AI จะช่วยให้เราเห็นผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง แถมยังช่วยให้เราประหยัดเวลาในการค้นคว้าเรื่องต่าง ๆ และเพิ่มโอกาสให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ในสิ่งที่เรากำลังทำ

ตัวอย่างการใช้ AI ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ AI ในสมาร์ทโฟน การแนะนำสินค้าในร้านค้าออนไลน์ หรือการใช้งานในด้านสุขภาพ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AI ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ อีกด้วย

AI กับบทบาทของมนุษย์

ในขณะที่ผู้เขียนบทความนี้อยู่ในปี 2024 ได้เกิด AI race ระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย โดยเฉพาะความก้าวหน้าของ OpenAI ที่นำเสนอ ChatGPT-4o ที่นำ AI มาเป็นผู้ช่วย สามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น ผ่านตัวอักษร การมองเห็น และเสียง การเรียนรู้แบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีนี้จึงเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงเวลานี้

ความเห็นเกี่ยวกับ AI กับการแย่งงาน

คำถามสำคัญคือ AI จะมาแย่งงานมนุษย์หรือไม่ ความจริงคือ AI มีศักยภาพในการแทนที่งานที่เป็นกิจวัตร ซ้ำซาก และต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานในสายการผลิต งานเอกสาร หรือการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน แต่ AI ไม่สามารถแทนที่งานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมได้

การศึกษาวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า AI มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงลักษณะของงานมากกว่าที่จะแย่งงานทั้งหมด งานบางประเภทที่ต้องการทักษะในการประมวลผลข้อมูลและการทำงานซ้ำซากอาจถูกแทนที่ด้วย AI แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะมีการสร้างงานใหม่ ๆ ที่ต้องการทักษะเฉพาะด้านที่ AI ยังไม่สามารถทำได้ เช่น งานในสายเทคโนโลยีใหม่ ๆ งานสร้างสรรค์ และงานที่ต้องการการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์

ผู้เขียนมองว่า AI จะเป็นผู้ช่วยที่ดีให้กับคนที่เข้าใจและใช้งานเป็น เป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังในการค้นคว้าและตัดสินใจ ในฐานะมนุษย์ที่ยังมีสังคม ความคิด และมิตรภาพ AI จะไม่สามารถเข้ามาแทนที่ความสัมพันธ์เหล่านี้ได้แน่นอน งานที่เป็นกิจวัตรอาจจะหายไป แต่เมื่อมนุษย์ได้เรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านี้แล้ว จะนำไปสู่ก้าวต่อไปที่ยังต้องการความสามารถของมนุษย์ในการทำเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม

สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการปรับตัวและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ เพราะเราไม่สามารถทำได้เร็วอย่าง AI คำถามสำคัญคือเราจะทำอย่างไรเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

การเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ AI ควรเริ่มต้นจากการศึกษาและเข้าใจเทคโนโลยีนี้ รวมถึงการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่ AI ไม่สามารถทำได้ เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการ โดยการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ เราจะสามารถใช้ประโยชน์จาก AI และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ และเติบโตไปพร้อมกับมัน